เปิดฉากเริ่มเรื่อง
พระบรมโพธิสัตว์ได้ทรงบำเพ็ญพระบารมี ๓๐ ทัศ มา ๔ อสงไขยแสนมหากัป
ด้วยประการดังนี้แล้ว ครั้นทิวงคตได้อุบัติไปบังเกิดเป็นสันดุสิตเทวราชเสวยทิพยสมบัติ
อยู่ในเทวโลกสวรรค์ชั้นดุสิต
เมื่อท้าวมหาพรหมในชั้นสุทธาวาสทั้ง ๕ ลงมาเที่ยวประกาศแก่ชาวโลก
อันเป็นเหตุแห่งพุทธโกลาหลแก่มวลมนุษย์ว่า
นับตั้งแต่นี้ไปอีกแสนปี พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะอุบัติขึ้นในโลก
ความสงสัยสับสนนี้ดำรงอยู่ถึงหนึ่งแสนปีเต็ม หาผู้ให้คำตอบมิได้ จวบจนกระทั่งบุพนิมิต
๕ ประการปรากฏขึ้นแก่สันดุสิตเทพบุตรแล้ว เหล่าเทวดา อินทร์ พรหม
ก็ทราบแน่ชัดว่า สันดุสิตเทพบุตร องค์นี้เอง คือองค์พระสัพพัญญูโพธิสัตว์
จึงพากันกราบทูลอาราธนาสันดุสิตเทพบุตรให้จุติมาบังเกิดยังโลกมนุษย์
เพื่อตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แสดงธรรมสั่งสอนเหล่าเวไนยสัตว์ในมนุษยโลก
กับทั้งเทวโลกให้ข้ามพ้นสังสารวัฏ ครั้นสันดุสิตเทพบุตรทรงพิจารณา
ปัญจมหาวิโลกนะ คือเหตุการณ์สำคัญที่พระโพธิสัตว์ทรงพิจารณา ตรวจดู
ก่อนจะทรงรับอาราธนา ๕ ประการ คือ
๑. กาล คือ อายุขัยของมนุษย์ จะต้องอยู่ระหว่าง ๑๐๐ ปี ถึง ๑ แสนปี
๒. ทีปะ คือ ทวีปที่พระพุทธเจ้าจะอุบัติต้องเป็นชมพูทวีปเท่านั้น
๓. เทสะ คือ ประเทศ ที่พระพุทธเจ้าจะอุบัติต้องเป็นมัธยมประเทศเท่านั้น
๔. กุละ คือ ตระกูล ที่พระพุทธเจ้าจะอุบัติต้องเป็นขัตติยสกุล หรือพราหมณสกุลเท่านั้น
๕. มารดา คือ พระมารดาของพระพุทธเจ้าจะต้องมีศีล ๕ บริสุทธิ์
ได้บำเพ็ญบารมีมาตลอดแสนกัป
เมื่อทรงเห็นว่าอยู่ในสถานะอันสมควรจึงรับคำทูลเชิญ
บทภาพยนตร์
บรรยาย
“ท้าวมหาพรหมในชั้นสุทธาวาสทั้ง ๕ ได้ลงมาประกาศแก่ชาวโลกว่า
(เสียงก้อง) นับแต่นี้ไปอีกแสนปี พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะเสด็จอุบัติขึ้นในโลก
ผู้ที่ปรารถนาจะพบพระองค์ต้องรักษาศีล ๕ และเจริญเมตตาภาวนาเป็นนิตย์
บรรยาย
มวลมนุษย์และเทวดาได้เกิดความสงสัยว่าผู้ใดจะได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมา
สัมพุทธเจ้าในโลกเป็นไปถึงหนึ่งแสนปี.....หาผู้ให้คำตอบไม่ได้ จนกระทั่ง
สัญญาณบอกเหตุเกิดขึ้น...”
ดนตรีประกอบ
(แสดงความตื่นเต้น-ยิ่งใหญ่)
บรรยาย
บรรดาเทพยดาและพรหมทั้งหลายได้ประชุมไต่ถามกันว่า ผู้ใดจะได้ตรัสรู้
เป็นพระพุทธเจ้า ระหว่างนั้นเองต่างก็สังเกตเห็นปัญจบุพนิมิตรปรากฏแก่
สันดุสิตเทพบุตร
ปัญจบุพนิมิตที่ปรากฏคือ ดอกไม้ทิพย์ที่ประดับกายเหี่ยวแห้ง ทิพยภูษา
ที่สวมใส่มีสีเศร้าหมอง เหงื่อไหลออกจากรักแร้มีผิวพรรณเศร้าหมองปรากฏ
และรู้สึกเบื่อหน่ายในเทวโลก
บรรยาย
เมื่อเห็นดังนั้น เหล่าเทพยดาก็พากันเข้าไปอัญเชิญให้จุติจากดุสิตสวรรค์
ลงไปเกิดยังโลกมนุษย์
สันดุสิตเทพบุตร ได้พิจารณาถึงปัญจมหาวิโลกนะอันได้แก่ กาลเวลา
คือ สัตว์โลกต้องมีอายุไม่น้อยหรือมากเกินไป สมควรที่จะบรรลุธรรม
ทวีป ต้องเป็นชมพูทวีปเท่านั้น
ประเทศ ต้องเป็นมัชฌิมประเทศเท่านั้น
ตระกูล จะต้องเป็นสองตระกูลเท่านั้นคือตระกูลกษัตริย์หรือตระกูลพราหมณ์
และ มารดา ต้องเป็นผู้ที่มีศีลบริสุทธิ์และมีบารมี
เมื่อพิจารณาเห็นว่ามีพร้อมมูลจึงรับคำเชิญ
|
|