ขนานพระนาม
เมื่อพระราชกุมารมีพระชันษาได้ ๕ วัน พระราชบิดารับสั่งให้เชิญพราหมณ์
๑๐๘ คน มาบริโภคอาหาร แล้วเหล่าพราหมณ์ได้คัดเลือกพราหมณ์ผู้มีความเชี่ยวชาญ
ในไตรเพทไว้ ๘ คน ให้ทำนายพระลักษณะ
ในบรรดาพราหมณ์ทั้ง ๘ คนนี้ โกณฑัญญพราหมณ์เป็นผู้มีอายุน้อยที่สุด
จึงทำนายเป็นคนสุดท้าย ยืนยันการพยากรณ์เป็นนัยเดียวเท่านั้นว่า
“พระราชกุมาร ผู้บริบูรณ์ด้วยพระมหาบุรุษลักษณะอย่างนี้
ตอนประสูติทรงประสูติอยู่กลางป่า เพราะฉะนั้นจะไม่อยู่ครองเรือน
อย่างแน่นอน จักต้องเสด็จออกบรรพชา และได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
อย่างมิต้องสงสัย”
พระเจ้าสุทโธทนะ เมื่อได้สดับพยากรณ์ดังนั้นแล้ว จึงตรัสถามพราหมณ์
เหล่านั้นว่า
“พระราชโอรสของเรา ได้เห็นสิ่งใดหรือจึงจะออกบวช ?
พราหมณ์เหล่านั้นกราบทูลว่า
“ได้เห็นนิมิต ๔ ประการ คือ คนแก่ คนเจ็บ คนตาย และ บรรพชิต
แล้วจะทรงสละราชสมบัติออกบวช ได้ตรัสรู้เป็นองค์พระสัพพัญญูพุทธเจ้า”
เมื่อการทำนายพระลักษณะเสร็จเรียบร้อยแล้ว พราหมณ์ทั้งหลายจึงได้
ขนานพระนามอันเป็นมงคลว่า
“สิทธัตถะ” หมายถึง ผู้สำเร็จความปรารถนาทุกอย่าง
หลังจากนั้นในวันที่ ๗ พระมารดาได้ทิวงคต ไปบังเกิดเป็นเทพบุตร
ในสวรรค์ชั้นดุสิต
ที่มาจากพระไตรปิฎก อรรถกถาและคัมภีร์ที่เกี่ยวข้อง
บทภาพยนตร์
พระเจ้าสุทโธทนะ
พราหมณ์หนึ่งร้อยแปดคนได้คัดเลือกพวกท่านให้เป็นผู้ทำนายลักษณะ
ลูกของเราพวกท่านทั้งแปดคน ล้วนเชี่ยวชาญในไตรเพทช่วยทำนายให้เราฟังทีซิ
พราหมณ์ ๑
ข้าพเจ้าพิจารณาลักษณะของพระราชโอรสแล้วขอทำนายว่า...ในภายภาคหน้า
ถ้าอยู่ครองราชย์สมบัติจะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิปราบปรามได้ชัยชนะไปทุกทิศ
แต่ถ้าออกบวชจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า จะเป็นศาสดาเอกผู้แนะนำสั่งสอนสัตว์โลก
โดยไม่มีศาสดาอื่นใดยิ่งใหญ่ไปกว่าแล้ว
ดนตรีประกอบ
พระเจ้าสุทโธทนะ
ท่านโกณฑัญญพราหมณ์ เหลือท่านเป็นคนสุดท้ายแล้ว ท่านมีความเห็น
เหมือนกับพราหมณ์ทั้ง ๗ ท่าน ที่ล้วนทำนายต้องตรงกันเป็นสองนัยว่า ลูกของเรา
อาจจะเป็นจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ หรือไม่ก็เป็นศาสดาเอกของโลกหรือเปล่าล่ะ
โกณฑัญญพราหมณ์
ข้าพเจ้าได้พิจารณาลักษณะของพระราชโอรสโดยละเอียดแล้ว
เห็นเป็นหนึ่งเดียวเท่านั้นพระราชโอรสจะไม่อยู่ครองเพศฆราวาสอย่างแน่นอน
ต้องเสด็จออกบรรพชา และได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างไม่ต้องสงสัย
พระเจ้าค่ะ
พระเจ้าสุทโธทนะ
ที่ท่านทำนายว่า ลูกของเราจะออกบวช มีอะไรที่ทำให้ลูกของเรา
ตัดสินใจอย่างนั้นหรือ
โกณฑัญญพราหมณ์
พระราชโอรสได้เห็นนิมิตสี่ประการคือ คนแก่ คนเจ็บคนตาย และบรรพชิต
ถึงจะสละราชสมบัติออกบวชจากนั้นจึงได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า
พระเจ้าสุทโธทนะ (เสียงก้องในความคิด)
เฮ้อ...ใจเรานั้นอยากจะให้ลูกของเราเป็นมหาจักรพรรดิครองราชย์สมบัติ
เป็นผู้ยิ่งใหญ่ไปทั้งมหาทวีปทั้งสี่ถือเป็นเกียรติยศสูงส่งของบรรดากษัตริย์ทั้งหลาย
นับแต่นี้ต่อไปเราจะไม่ให้ลูกของเราได้เห็นคนแก่ คนเจ็บ คนตาย และบรรพชิตเสียเลย
บรรยาย
หลังจากพราหมณ์ทั้งแปดทำนายพระลักษณะพระโอรสแล้ว ได้ขนานพระนาม
เป็นมงคลว่า สิทธัตถะราชกุมาร ซึ่งมีความหมายว่า พระกุมาร ผู้ประสบความสำเร็จ
ตามที่ต้องการ
ฝ่ายพราหมณ์ผู้ทำนายลักษณะเมื่อกลับถึงบ้านเรือนก็เรียกบุตรมาสั่งว่า
ภายภาคหน้าจงออกบวชตามพระราชกุมาร
บรรยาย
เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะประสูติได้เจ็ดวัน พระนางสิริมหามายาผู้เป็น
พระราชมารดาได้ทิวงคต... .....และไปบังเกิดเป็นเทพบุตรบนสวรรค์ชั้นดุสิต
ดนตรียิ่งใหญ่ประกอบ
บรรยาย
พระเจ้าสุทโธทนะ จึงได้มอบหมายให้พระนางมหาปชาบดีผู้เป็นพระน้านาง
ของเจ้าชายสิทธัตถะเป็นผู้เลี้ยงดู ต่อมาทรงยกขึ้นเป็นพระมเหสีของพระองค์ พระนางได้ประสูติพระโอรส และพระธิดา ๒ พระองค์ แต่พระนางก็รักเจ้าชายสิทธัตถะ
เหมือนกับเป็นพระโอรสของพระนาง
ดนตรีประกอบ
|