ทอดพระเนตรเห็นเทวทูตทั้ง ๔

            เมื่อทรงมีพระชนมายุได้ ๒๙ พรรษา เจ้าชายสิทธัตถะเสด็จประพาส
ราชอุทยาน  ได้ทอดพระเนตรเห็นสิ่งที่พระองค์ไม่เคยเห็น ไม่เคยทราบมาก่อน
๔ ประการ (เทวทูต ๔) คือ คนแก่ คนเจ็บ คนตาย และ บรรพชิต


            ทรงพิจารณาเล็งเห็นทุกข์ของพสกนิกรและผู้ที่เกิดมาทั้งหลาย  ทรงใคร่ครวญ
ที่จะหาทางดับทุกข์เหล่านั้น  และมีพระทัยตั้งมั่นว่าการบวชคงจะเป็นหนทางเดียว
ที่จะค้นหาทางช่วยเหลือมนุษย์ทั้งหลายจากทุกข์เหล่านั้น

             ขณะที่ทรงใคร่ครวญอยู่นั้น ทรงทราบว่าพระนางพิมพาประสูติราชโอรส
จึงทรงเปล่งอุทานว่า “ราหุลัง ชาตัง...” แปลว่าบ่วงเกิดขึ้นแล้ว...
พระโอรสจึงได้พระนามว่า ราหุล

 

ที่มาจากพระไตรปิฎก อรรถกถาและคัมภีร์ที่เกี่ยวข้อง

 

บทภาพยนตร์

 

พระเจ้าสุทโธทนะ
             ภายนอกพระราชวังนั่นไม่มีอะไรน่าชมหรอก สิทธัตถะ


เจ้าชายสิทธัตถะ
             ตั้งแต่ลูกยังเด็กจนกระทั่งเดี๋ยวนี้ ลูกยังไม่เคยออกไปนอกกำแพงสูงใหญ่
ของพระราชวังเลย  ลูกอยากจะเห็นบ้างว่ามันเป็นอย่างไร


พระเจ้าสุทโธทนะ
            ไม่มีที่แห่งไหนจะงดงามน่าชม และมีความสุขเท่าในพระราชวังนี่
อีกแล้วล่ะลูก


เจ้าชายสิทธัตถะ
            แต่ถึงอย่างนั้น ลูกก็อยากจะออกไปดูให้เห็นกับตาสักครั้งหนึ่ง 
เสด็จพ่ออนุญาตให้ลูกออกไปเถอะ


พระเจ้าสุทโธทนะ
            เฮ่อ..ถ้าเป็นความต้องการของเจ้า พ่อก็ไม่อยากขัดใจพ่อจะสั่งเตรียมราชรถ
พรุ่งนี้เช้าเจ้าค่อยออกไปก็แล้วกันนะ


เจ้าชายสิทธัตถะ
            ขอบพระทัยเสด็จพ่อ

 

เจ้าชายสิทธัตถะ (เสียงก้องในความคิด)
            โอ...ภายนอกพระราชวังเป็นแบบนี้นี่เอง ทำไมพระบิดาถึงบอกว่า
ไม่มีอะไรน่าดู และก็ไม่อยากให้เราเห็นหละ

 

ดนตรีประกอบ

 

เจ้าชายสิทธัตถะ
            ฉันนะหยุดรถก่อนซิ


ฉันนะ
            มีอะไรหรือพะย่ะค่ะ


เจ้าชายสิทธัตถะ
             ดูผู้ชายคนนั้นสิ ทำไมถึงได้มีเนื้อหนังเหี่ยวย่น
เดินก็แทบจะไม่ไหวเหมือนกับคนอื่นละ


ฉันนะ
             อ๋อ...นั่นคือคนชราพะย่ะค่ะ


เจ้าชายสิทธัตถะ
             คนชราเหรอ..


ฉันนะ
             คนเราพอมีชีวิตอยู่ไปนานๆ เข้าก็เป็นแบบนี้ทุกคนล่ะพะย่ะค่ะ


เจ้าชายสิทธัตถะ
             ทุกคนจะต้องมีสภาพเป็นอย่างนี้ด้วยเหรอ...

 

ดนตรีประกอบ

 

เจ้าชายสิทธัตถะ
             ฉันนะ หยุดรถม้าก่อนซิ


ฉันนะ
             มีอะไรหรือพะย่ะค่ะ


เจ้าชายสิทธัตถะ
             ทำไมชายคนนั้นนั่งตัวสั่นอย่างนั้นล่ะ


ฉันนะ
            เขาไม่สบายพะย่ะค่ะ


เจ้าชายสิทธัตถะ
            ไม่สบายเหรอ...


ฉันนะ
            ความเจ็บป่วยเป็นของธรรมดา คนเราก็ต้องเจ็บไข้ได้ป่วย
ไม่สบายกันทั้งนั้นล่ะพะย่ะค่ะ

 

ดนตรีประกอบ

 

 

ฉันนะ
             เจ้าชาย..เสด็จกลับมาก่อนพะย่ะค่ะ

 

ฉันนะ
             เจ้าชาย..เจ้าชาย..เชิญพระองค์เสด็จขึ้นรถม้าเถิดพะย่ะค่ะ

 

เจ้าชายสิทธัตถะ
             ในห่อผ้านั่นน่ะเป็นคนใช่ไหม


ฉันนะ
            นั่นคือคนตายพะย่ะค่ะ


เจ้าชายสิทธัตถะ
            ทุกคนต้องตายด้วยเหรอ


ฉันนะ
            ถูกต้องแล้วพะย่ะค่ะ ไม่มีใครสามารถหนีความตายได้พ้น


เจ้าชายสิทธัตถะ
            แม้แต่เราอย่างนั้นเหรอ


ฉันนะ
             เอ้อ...พะย่ะค่ะ แม้แต่พระองค์ก็เหมือนกัน

 

ดนตรีประกอบ

 

เจ้าชายสิทธัตถะ
            ฉันนะ หยุดรถก่อน

 

ฉันนะ
            นั่นคือบรรพชิตพะย่ะค่ะ

 

เจ้าชายสิทธัตถะ (เสียงก้องในความคิด)
            โอ..ช่างดูสงบเยือกเย็น กิริยาสำรวมน่าเลื่อมใสจริงๆ

 

ดนตรีประกอบ

 

มหาดเล็ก
            พระชายาประสูติพระโอรสแล้วพะยะค่ะ


เจ้าชายสิทธัตถะ
             ..ลูกรักของพ่อ...พ่อกำลังแสวงหาหนทางพ้นทุกข์เมื่อเจ้าเกิดมา
ก็ยิ่งเหมือนบ่วงพันธนาการจิตใจของพ่อเอา ไว้แน่น พ่อจะขอตั้งชื่อเจ้าว่า ราหุล
  ที่หมายถึงบ่วงเครื่องพันธนาการพ่อ